‘สุรเชษฐ์’ เปิดเผยกระบวนการ ‘3 เปรียญ’ ทำค่าตั๋วรถไฟฟ้าแพง แบ่งปันผลตอบแทนไม่เห็นหัวประชาชน ใช้มัธยม44 กลบปัญหาไว้ใต้ประพรม
ตอนวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ดำเนินมาตลอดเป็นวันที่ 2 ถัดมาเวลา 21.55 น. นายสุรเชษฐ์ ประวีที่สกุลวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวหน้า (กรัมกรัม) อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกฯและก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อำเภออนุดงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอำนาจไทย ใกล้ถูกใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดย กล่าวว่า ตนจะอภิปรายเรื่อง ขั้นตอน 3 เปรียญ กับค่าตั๋วรถไฟใต้ดินฟ้าแพง ซึ่งตนเห็นด้วยกับการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะ แต่ว่าปัญหาก็คือค่ารถไฟใต้ดินฟ้าแพงแพง ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ในลอนดอนแล้วก็กรุงปารีส ใช้อัตราค่าใช้จ่ายในการใช้โดยสารคงเดิม ในเมืองโตเกียว กับประเทศสิงคโปร์ใช้ขึ้นรถตามระยะทาง แม้กระนั้นของไทยใช้ผู้ประกอบกิจการเป็นตัวตั้ง บางแผนการก็ไม่มีมาตรฐาน และก็มีค่าแรกเข้าซ้ำไปซ้ำมา เมื่อแปรไปสายสีอื่น โชคดีที่พสกนิกรตื่นทราบ ก็เลยมีการยั้งการปรับขึ้นราคารถไฟฟ้าสายสีเขียวจาก 158 และก็รถยนต์มา 104 บาทแม้กระนั้นก็ยังแพงอยู่ดี
รถไฟฟ้าดีจังแต่ว่าใช้เงินเยอะแยะ ซึ่งควรมีคนจ่าย การลงทุนรถไฟฟ้าตกสายละราว 100,000 ล้านบาท ตกกิโลละ 2,000 – 9,000 ล้านบาท นับว่าเป็นเงินอย่างใหญ่โต สำหรับรถไฟฟ้าในจังหวัดกรุงเทพ พล.อำเภอประยุทธ์ อนุมัติเงินไปแล้ว 508,609 ล้านบาท (เทียบกับงบประมาณลงทุนทั่วทั้งประเทศ 2564หมายถึง513,379 ล้านบาท) การจัดสรรการขนส่งสาธารณะล้มเหลวทำให้คนมาใช้บริการน้อย การจัดการจัดแจงที่แย่ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้โดยสารแพง ด้วยเหตุว่าขาดการวางเป้าหมายอย่างมีระบบ ไม่คิดว่าอะไรทำก่อนทำข้างหลัง การสนทนาแบ่งขนมเค้กเป็นรายๆเป็นการปฏิบัติที่มิได้เอาสามัญชนเป็นตัวตั้ง ท้ายที่สุดแผนการก็ไม่โปร่งใส มีการใช้มาตรา 44 ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นการเอื้อนายทุนให้ได้รับสัมปทานไหม ค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสารแพงขนาดไหนขึ้นกับกับการอุดหนุน เงินลงทุนหลักของระบบรถไฟฟ้าอยู่ที่ 1.การเวนคืน 2.งานโยธา 3.งานระบบ 4.ค่าบริหารจัดแจงรวมทั้งซ่อมแซมทุกปี การเลือกระบบคนสั่งติดต่อประสานงานในแต่ละทางก็เลยสำคัญมาก
ส่วนตั๋วร่วมก็ไม่กำเนิดสักครั้ง มีแม้กระนั้นโปรโมทเอาหน้าไปบ่อย เมืองจำเป็นต้องทำตั๋วร่วมให้เสร็จก่อน ก็เลยจะแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสารร่วมได้แม้กระนั้นรัฐบาลก็ทำเป็นล้มเหลว เทคโนโลยีไม่ใช่ปัญหา แม้กระนั้นไม่มีสติปัญญาหรือเกรงอกเกรงใจขาใหญ่ ทำให้มีการเกิดค่าแรกเข้าซ้ำไปซ้ำมา และก็จำต้องถือบัตรหลายใบ ระบบของตั๋วร่วมช่วงนี้เปลี่ยนเป็นซากอารยธรรมอยู่ที่ องค์การรถไฟฟ้ามหานคร คนอนุมัติมั่งมี พลเมืองจ่าย แต่ว่าใช้ไม่ได้ เสียเงินเสียทองฟรีไป 648 ล้านบาท อีกหัวข้อเป็นค่าระยะทางเมื่อผ่านสาย ดังเช่นว่าการขึ้นรถโดยสารประจำทางแล้วมาต่อด้วยรถไฟฟ้า
ปัญหาค่ารถไฟใต้ดินฟ้าแพงเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการอุดหนุนน้อยเกินไป ด้วยเหตุว่าการลงทุนแบบน้อยเกินไปเพียงแต่ การจัดการจัดแจงไม่ดี มัวแต่หาทางร่ำรวยจากวิธีการสาม เปรียญหมายถึงเปรียญ การปั่นจำนวน เพราะว่าพล.อำเภอประยุทธ์ สั่งแบบมีธง มิได้จะให้เรียนอย่างเป็นจริงเป็นจังรวมทั้งเป็นกลาง ทำทุกๆอย่างตามใจตนเองโดยไม่ถามพลเมือง มีการปั่นจำนวนให้มองคุ้มค่าการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจ จะได้อนุมัติให้ทำแผนการได้ โดยเฉลี่ยเมืองอุดหนุน 80% เอกชนร่วมลงทุนเพียงแค่ 20% แม้กระนั้นได้ทรัพย์สิน 100% ไปพบรายได้ รถไฟฟ้าแต่ละสายลงทุนราวๆ 100,000 ล้านบาท แม้หลบซ่อนเลขเพียงแค่ 1% ก็ได้ไป 1000 ล้านบาท
โดยเหตุนั้นการพูดจาจำเป็นต้องสนทนาบนโต๊ะโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามขั้นตอนการ เนื่องจากว่าท้ายที่สุดผู้ที่แบกภาระเป็นประชากร การปั้นจำนวนเป็นการปล้นประชากร ยิ่งในตอนรัฐประหารระบบการตรวจทานมันล้มเหลวไม่มีผู้ใดกล้าขวางธงจากหัวหน้า เสกมาว่าโครงงานคุ้มแต่ว่าของแท้ไม่ เพียงแค่ต้องการหาเลี้ยงชีพกับการยินยอมแผนการขนาดใหญ่แต่ว่ามันเสียหายมากยิ่งกว่าฉ้อราษฎร์บังหลวงมากมาย
นายสุรเชษฐ์ บอกว่า ถัดมา เปรียญ ปั่นแผนการ มีการรีบต้องการแต่ว่าจะสร้าง หวังแต่ว่าหัวคิว สร้างปัญหารถติดมลภาวะมากมาย ทั้งต้องหาเรื่องขยายสัมปทานด้วยเหตุว่าเมืองไม่เหลือเงินไปอุดหนุน รถไฟฟ้าดีจัง แต่ว่าใช้เงินมากมาย รวมทั้งใหญ่เกินจำเป็นในหลายทาง ทำให้พวกเราจำเป็นต้องอุดหนุนมากมาย ไม่อย่างนั้นก็จะแพงมากมาย กรณีของจ.กรุงเทพฯ ควรอุดหนุนระบบรถเมล์ เนื่องจากว่ามีผู้มีรายได้น้อยจำนวนไม่น้อย การที่พล.อำเภอประยุทธ์ สร้างรถไฟเยอะแยะมิได้หมายความว่าเก่ง เนื่องจากว่าพล.อำเภอประยุทธ์มิได้เป็นคนลงมือสร้าง แม้กระนั้นบางทีอาจเป็นคนมาแบ่งสรรผลตอบแทน ซึ่งตนรู้สึกเสียดายเงินภาษีมากมาย ด้วยเหตุว่าสามารถนำเงินไปทำประโยชน์หรือทำอะไรที่คุ้มกว่านี้มากมาย
นายสุรเชษฐ์ บอกว่า เปรียญ เงินปันผลคุณประโยชน์ ยกตัวอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตนนับได้ว่าเป็นเมกกะโปรเจ็กต์อยู่ในตำนานของพล.อำเภอประยุทธ์ ภาวะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นใช้ระบบใหญ่ลากออกไปยาวเกินจำเป็น ที่มีส่วนต่อขยาย กระทั่งกรุงเทพมหานคร อุดหนุนไม่ไหว แต่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็ใช้มาตรา 44 มากมายลบเกลื่อนกลาดปัญหา ซุกปัญหาสารพันไว้ใต้ประพรม ที่ตอนวันที่ 11 เดือนเมษายน 2562 มีการคำบัญชาคสช. ที่ 3 / 2562 มีการลัดขั้นตอนไม่ปฏิบัติงานตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ รวมทั้งตั้งคณะกรรมการพิเศษมามุบมิบพูดจาแบบพิเศษ ตอนนี้ยังไม่ยินยอมเผยรายงานการประชุม ซึ่งทางที่ประชุมบอกอปิ้งเป็นทางการว่าช่วงวันที่ห้ากันยา 2562 จะต้องให้มีการสนทนาใหม่ ทำให้รัฐมนตรีจำต้องลาออก
ส่วนสายสีส้ม ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเอกชนแย่งสัมปทานกันเนื่องจากเมืองช่วยอุดหนุนมากมาย เมื่อเทียบกับสายสีเขียว กำเนิดศึกระหว่าง BEM ซึ่งเป็นขาใหญ่ในกระทรวงคมนาคม และก็ BTS ซึ่งเป็นขาใหญ่ของ กรุงเทพมหานคร เกิดเรื่องเกรียวกราวในกระทรวงคมนาคม เพราะว่ามีการแปลงกฏเกณฑ์การวินิจฉัยให้แต้มในอากาศ เนื่องจากว่าส่งผลกับคนประมูลอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งเรื่องยังอยู่ที่ศาลปกครองกึ่งกลาง ประเด็นนี้ผู้ที่ทำกล้ามาก เป็นการคดโกงกันอย่างน่ารังเกียจ ในที่สุดยังจำเป็นต้องรอคอย พล.อำเภอประยุทธ์สะสาง ปัญหาเป็นพสกนิกรอยู่ที่ไหนในสมการเงินปันผลคุณประโยชน์กัน ตนก็เลยขอโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อำเภอประยุทธ์ พล.อำเภออนุดงษ์ แล้วก็นายอำนาจไทย
ปริศนาเป็นค่าตั๋วรถไฟไฟแพงจะแก้ไขปัญหาที่ตนเองก่อเช่นไร ตัวรูปจะเสร็จเมื่อใดและก็ค่าใช้จ่ายในการใช้โดยสารร่วมจะจัดการกับปัญหาอะไรบ้าง จะยอมสั่งให้เผยข้อมูลทั้งปวงแล้วมาแย้งกันด้วยเหตุผลไหม รถไฟฟ้าสายสีเขียวจะกลับไปไขปัญหาด้านสัมปทานด้วยมาตรา 44 ต่อส่วนสายสีส้มจะใช้มาตรฐานเดิม หรือมาตรฐานใหม่ ถ้าหากต้องการทำเพื่อพสกนิกรจริงคงจะไม่ทำแบบงี้ที่ทำมาหากินกับการผลิตรถไฟฟ้าแล้วก็ทิ้งปัญหาไว้ เมื่อสามเปรียญ มาพบกัน ประเทศชาติย่อยยับ
